ไมค์ตั้งโต๊ะ แนะนํา

ไมค์ตั้งโต๊ะ แนะนํา ไมโครโฟนคอมพิวเตอร์จากยุคนี้เป็นค่าเริ่มต้นที่ผู้สร้างเนื้อหาในปัจจุบันต้องมี ไม่ว่าจะเป็นการสตรีมสด เล่นเกมโชว์ บันทึกพอดแคสต์ หรือคัฟเวอร์เพลง หากคุณมีไมโครโฟนที่ดี แม้แต่คนเดียวก็สามารถมีชัยไปกว่าครึ่งได้ เพราะมันช่วยให้เราบันทึกสิ่งที่เราพูด ร้องเพลง และฟังได้ชัดเจนยิ่งขึ้น สิ่งนี้ทำให้ผู้ที่เข้ามาดูเนื้อหาของเราได้ยินและเข้าใจสิ่งที่เราจะพูดได้ชัดเจนยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามแต่ละคนมีความต้องการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนั้นหากคุณต้องการซื้อไมโครโฟนไว้ใช้งาน อย่าเพิ่งซื้อและเสียบเข้ากับคอมพิวเตอร์ของคุณ เนื่องจากผู้ผลิตหลายรายใช้เทคโนโลยี อินเทอร์เฟซการเชื่อมต่อ และคุณสมบัติที่แตกต่างกัน มันยังรวมถึงสิ่งต่างๆมากมาย ดังนั้นควรหาข้อมูลและตรวจสอบบทวิจารณ์ก่อนซื้อไมโครโฟน ซึ่งจะทำให้คุณสามารถเลือกไมโครโฟนที่เหมาะกับสไตล์การใช้งานของคุณได้ดียิ่งขึ้น

ไมค์ตั้งโต๊ะ แนะนํา เพื่อสตรีมเมอร์หรืออัด Podcast ก็แจ่มไม่แพ้กัน!

ไมค์ตั้งโต๊ะ แนะนํา สำหรับคนที่ตัดสินใจได้แล้ว ว่าจะหาไมค์คอมพิวเตอร์ดีๆ เอาไว้ใช้สักอัน ไม่ว่าจะเพราะเอาไว้ไลฟ์สตรีมเกม, อัด Podcast, โคฟเวอร์เพลงก็ตาม ปัจจุบันนี้เราสามารถหาซื้อไมโครโฟนคุณภาพดีได้ง่ายและราคาก็ไม่แพงมากแล้ว โดยทั้ง 7 รุ่นที่ผู้เขียนเลือกมาแนะนำได้แก่

1. FANTECH Leviosa MCX01 (1,290 บาท)

หลายๆ คนอาจจะเคยเจอแบรนด์ FANTECH อย่างน้อยหนึ่งครั้ง FANTECH Leviosa MCX01 เป็นไมโครโฟนคอนเดนเซอร์ที่โดดเด่นของผู้ผลิต ออกแบบมาสำหรับสตรีมเมอร์สดและผู้ที่ต้องการบันทึกพอดแคสต์ มันไม่แพงขนาดนั้น ไมโครโฟนมีไฟ RGB และการปรับเสียงด้วยสวิตช์ และยังมีช่องเสียบหูฟังสำหรับตรวจสอบเสียงอีกด้วย ต้องคำนึงว่าสามารถได้ยินเสียงได้ชัดเจนและชัดเจน

ข้อมูลจำเพาะของไมโครโฟนประกอบด้วยการตอบสนองความถี่ 20-20kHz อัตราบิต 16 บิต ความไวเสียง -38dB±3dB รูปแบบการรวบรวมเสียงแบบคาร์ดิออยด์ และการเชื่อมต่อโดยตรงกับพอร์ต USB ดังนั้นจึงสามารถ เชื่อมต่อกับพีซี รวมไปถึงตัวกรอง POP ของคอนโซล ตาข่ายป้องกันไมโครโฟน และขาตั้งขาตั้งกล้อง พร้อมใช้งานทันที

สเปคของ FANTECH Leviosa MCX01

  • ตอบสนองความถี่ 20-20kHz ค่า Bit Rate 16-bit
  • ความเซนซิทีฟเสียง -38dB±3dB รูปแบบรับเสียงเป็น Cardioid
  • เชื่อมต่อผ่านทางพอร์ต USB มี POP Filter และขาตั้ง Tripod แถมมาให้
  • ราคา 1,290 บาท

2. Razer Seiren Mini (1,590 บาท)

อุปกรณ์เกมมิ่งแบรนด์นี้ยังมีไมโครโฟนสำหรับเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ของคุณด้วย แบรนด์แรกที่หลายคนคุ้นเคยคือ Razer ด้วยดีไซน์ที่เรียบง่ายของ Razer Siren Mini คุณสามารถติดเข้ากับขาตั้งเพื่อปรับไมโครโฟนให้เป็นมุมที่เหมาะสมสำหรับการพูด และติดเข้ากับอุปกรณ์กันกระแทกเพื่อลดการสั่นสะเทือนจากพื้นดินหรือในอากาศ อีกทั้งยังเชื่อมต่อได้ง่ายผ่านพอร์ต USB เพียงเสียบปลั๊กก็ใช้งานได้เลย

ข้อมูลจำเพาะของ Razer Siren Mini ประกอบด้วยการตอบสนองความถี่ 20-20kHz อัตราบิต 16 บิต และรูปแบบการรับเสียง Supercardioid หรือประเภทการรับด้านหน้าและด้านข้าง ไมโครโฟนพร้อมใช้งานทันทีเมื่อนำออกจากกล่อง วางบนโต๊ะ และเชื่อมต่อกับ USB มีฟังก์ชั่นลดเสียงรบกวนพร้อมไมโครโฟนในตัว ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเสียงคลิกเมาส์และคีย์บอร์ดไม่เข้าสู่ไมโครโฟน

สเปคของ Razer Siren Mini

  • ตอบสนองความถี่ 20-20kHz ค่า Bit Rate 16-bit
  • รูปแบบรับเสียงเป็น Supercardioid
  • เชื่อมต่อผ่านทางพอร์ต USB มี Shockmount ในตัว ดีไซน์แบบมีขาตั้งวางโต๊ะใช้งานได้เลย มีฟีเจอร์ลดเสียงรบกวนในตัวด้วย
  • ราคา 1,590 บาท

3. HyperX SoloCast (1,990 บาท)

ไมโครโฟนคอมพิวเตอร์อีกตัวที่น่าสนใจสำหรับเกมเมอร์ไม่แพ้กันคือ HyperX SoloCast ซึ่งเชื่อมต่อได้ง่าย ใช้งานได้กับ Windows, macOS, PS4 และ PS5 แพคเกจประกอบด้วยขาตั้งแบบตั้งโต๊ะที่ให้คุณติดตั้งไมโครโฟนในแนวตั้งและปรับทิศทางหัวไมโครโฟนได้ นอกจากนี้ยังมีรูน็อตที่ปลายไมโครโฟน ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับแขนล็อคไมโครโฟนเพื่อให้เข้ากับสไตล์การตกแต่งโต๊ะของคุณ นอกจากนี้ยังมีปุ่มปิดเสียงที่ปลายไมโครโฟนเพื่อกันเสียงเมื่อไม่ต้องการ และยังมีไฟ LED แสดงสถานะ

ข้อมูลจำเพาะของ HyperX SoloCast ประกอบด้วยรูปแบบการรับเสียงแบบคาร์ดิออยด์, การตอบสนองความถี่ 20-20kHz, ความไวของเสียง -6dBFS, อัตราบิต 16 บิต, การเชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB และ HyperX ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับสตรีมเมอร์ที่ทดสอบและรับรองบน ​​Discord และ Discord เรามีโปรแกรมถ่ายทอดสดยอดนิยมทั้งหมด เช่น OBS, XSplit, Streamlabs OBS เป็นต้น ดังนั้นสำหรับผู้ที่เน้นการเล่นเกมสดไมโครโฟนรุ่นนี้ถือเป็นรุ่นที่น่าสนใจมาก

สเปคของ HyperX SoloCast

  • ตอบสนองความถี่ 20-20kHz ค่า Bit Rate 16-bit
  • ความเซนซิทีฟเสียง -6dBFS รูปแบบรับเสียงเป็น Cardioid
  • เชื่อมต่อผ่านทางพอร์ต USB แถมขาตั้งสำหรับตั้งโต๊ะแล้วปรับไมค์แนวตั้งหรือหันหัวไมค์เข้าตัวก็ได้ รวมทั้งมีช่องร้อยน็อตต่อขาตั้งล็อคไมค์ได้ มี
  • ปุ่ม Mute ปิดเสียงท้ายไมค์
  • ราคา 1,990 บาท

4. BOYA BY-PM500 (2,490 บาท)

สมมติว่ามีคนสร้าง YouTube และบันทึกทั้งพอดแคสต์และสตรีมเกมสด เน้นหาไมโครโฟนดีๆ BOYA BY-PM500 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเนื่องจากไมโครโฟนมีช่องเสียบหูฟังสำหรับตรวจสอบเสียง มีการปรับระดับเสียง และสามารถเชื่อมต่อกับพอร์ต USB ได้ รับประกัน 2 ปีเต็ม.

ไมโครโฟนนี้มีการตอบสนองความถี่ 20-20kHz และมีรูปแบบปิ๊กอัพสองรูปแบบที่สามารถปรับเป็นคาร์ดิโอด์หรือรอบทิศทางได้ เพียงกดสวิตช์ไมโครโฟน ความไวเสียง -36dB บิตเรตสูง 24 บิตให้คุณภาพเสียงที่ดีกว่าไมโครโฟนอื่นๆ ส่วนการเชื่อมต่อก็สามารถรองรับผ่าน USB-C ได้ สำหรับผู้ที่สนใจอัดคลิป สัมภาษณ์ จัดรายการทาง Clubhouse, Twitter Spaces หรือแม้แต่ร้องเพลง BOYA ตัวนี้ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีมาก

สเปคของ BOYA BY-PM500

  • ตอบสนองความถี่ 20-20kHz ค่า Bit Rate 24-bit
  • ความเซนซิทีฟเสียง -36dB รูปแบบรับเสียงปรับได้ 2 แบบทั้ง Cardioid หรือ Omnidirectional ก็ได้ โดยกดสวิตช์ปรับเสียงที่ไมค์
  • เชื่อมต่อผ่านทางพอร์ต USB-C เป็นไมค์แบบตั้งโต๊ะติดขาตั้งมาให้ในตัว มีช่องหูฟัง 3.5 เป็นช่อง Monitor สำหรับฟังเสียงพูดที่พูดเข้าไมค์ได้ด้วย
  • ราคา 2,490 บาท

5. Audio-Technica ATR2500X-USB (3,790 บาท)

นอกจากหูฟังแล้ว Audio-technica ATR2500x-USB ยังเป็นไมโครโฟนแบบสแตนด์อโลนที่มีสเปคดีเยี่ยม เหมาะสำหรับทุกคนที่กำลังมองหาไมโครโฟนคอมพิวเตอร์สำหรับบันทึกพอดแคสต์ เพลงคัฟเวอร์ หรือบันทึกเสียงพากย์ต่างๆ เรียกได้ว่าเหมาะมาก ไมโครโฟนแบบปุ่มกดมีช่องเสียบหูฟังที่สามารถใช้เป็นจอภาพเพื่อเพิ่มหรือลดระดับเสียงได้ และไมโครโฟนได้รับการออกแบบให้เชื่อมต่อกับแขนไมโครโฟน

ข้อมูลจำเพาะของไมโครโฟนนี้ประกอบด้วยการตอบสนองความถี่ 30-15,000 Hz, รูปแบบเสียงแบบคาร์ดิโอด์, อัตราบิต 24 บิต และการเชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB-C ไมโครโฟนมีขนาด 3.5 มม. ไมโครโฟนตัวนี้ถือว่าเหมาะมากสำหรับการร้องเพลงและบันทึกพอดแคสต์และสตรีมมิ่งเกมเพื่อให้ได้เสียงที่คมชัดยิ่งขึ้น ภายในกล่อง คุณจะพบขาตั้งสามขาและที่วางไมโครโฟน รวมถึงสาย USB-C เป็น C และ USB-C เป็น A สำหรับการใช้งาน

สเปคของ audio-technica ATR2500x-USB

  • ตอบสนองความถี่ 30-15,000 Hz ค่า Bit Rate 24-bit
  • รูปแบบรับเสียงเป็น Cardioid
  • เชื่อมต่อผ่านทางพอร์ต USB-C แถมขาตั้งโต๊ะมาให้ในกล่อง มีช่องหูฟัง 3.5 เป็นช่อง Monitor สำหรับฟังเสียงพูดที่พูดเข้าไมค์ได้ด้วย ส่วนในกล่องมีขาตั้ง 3 ขาและมีตัวจับไมค์แถมมาให้ใช้งาน
  • ราคา 3,790 บาท

6. Rode NT-USB (3,900 บาท)

คลาสไมโครโฟนของ Rode ได้รับการกล่าวขานว่าเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการบันทึกเพลงและพอดแคสต์ และ Rode NT-USB นี้สามารถใช้กับแอปได้ บันทึกเสียงที่หลากหลายบนระบบ Windows และ macOS เกือบทั้งหมดที่รองรับไมโครโฟนภายนอก ขาตั้งไมโครโฟน ฟิลเตอร์ POP และตาข่ายป้องกันเสียงรบกวนจากลมรวมอยู่ในแพ็คเกจด้วย

ข้อมูลจำเพาะของไมโครโฟนประกอบด้วยการตอบสนองความถี่ 20-20kHz อัตราบิต 16 บิต และรูปแบบการรับเสียงแบบคาร์ดิออยด์ที่รองรับการเชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB ในตัว นอกจากนี้ยังมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. สำหรับตรวจสอบเสียงระหว่างการสนทนา นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับถุงผ้าสำหรับใส่ไมโครโฟน เผื่อคุณต้องการพกพาไปบันทึกที่อื่นด้วย แนะนำเรื่องนี้ให้กับทุกคนที่สนใจเพลง cover และมีงบน้อยครับ แนะนำให้ลองดูไมโครโฟน Rode ตัวนี้ครับ

สเปคของ Rode NT-USB

  • ตอบสนองความถี่ 20-20kHz ค่า Bit Rate 16-bit
  • รูปแบบรับเสียงเป็น Cardioid
  • เชื่อมต่อผ่านทางพอร์ต USB เป็นไมค์แบบแถมขาตั้งและถุงผ้ามาให้ในตัว มีช่องหูฟัง 3.5 เป็นช่อง Monitor สำหรับฟังเสียงพูด ใช้กับแอพฯ ที่รับไมค์แยกได้
  • ราคา 3,900 บาท

7. Bluet Yeti (6,590 บาท)

รุ่นสุดท้ายเป็นไมโครโฟนสำหรับนักสร้างสรรค์ที่มีชื่อเสียงมายาวนาน หากคุณมีงบประมาณเราขอแนะนำให้ซื้อเพื่อใช้กับ Blue Yeti ซึ่งเป็นไมโครโฟนแนวตั้งที่รับเสียงจากด้านข้าง ผู้ผลิตแนะนำให้วางไมโครโฟนในแนวตั้ง เพื่อเสียงที่ดีที่สุด หลีกเลี่ยงการหันหัวไมโครโฟนเข้าหาตัวคุณ ไมโครโฟนคอมพิวเตอร์รุ่นนี้มีราคาแพงที่สุดในกลุ่มแต่ก็มีคุณสมบัติมากมายเช่นกัน

ข้อมูลจำเพาะของไมโครโฟนนี้ยังรองรับความถี่เสียง 20-20kHz และรูปแบบการรับเสียง 16 บิตสามารถปรับได้ คาร์ดิออยด์ สองทิศทาง รอบทิศทาง และสเตอริโอ คุณสามารถใช้มันกับทุกสิ่งตั้งแต่การสร้างพอดแคสต์ ร้องเพลง และเกมถ่ายทอดสด รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB และมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. สำหรับการตรวจสอบเสียง ไมโครโฟนมีปุ่มปิดเสียงเพื่อปิดเสียง ปุ่มเกนเพื่อปรับเสียง และปุ่มควบคุมเพื่อเปลี่ยนรูปแบบเสียง แม้ว่าจะรองรับระบบปฏิบัติการ Windows 10 หรือ macOS 10.13 หรือใหม่กว่า แต่ Blue Yeti ก็มีราคาแพงกว่าเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพด้านต้นทุนเรียกว่าแบบจำลองที่สมบูรณ์

สเปคของ blue Yeti

  • ตอบสนองความถี่ 20-20kHz ค่า Bit Rate 16-bit
  • รูปแบบรับเสียง 4 แบบ ได้แก่ Cardioid, Bidirectional, Omnidirectional, Stereo มีลูกบิดเปลี่ยนแบบเสียงได้ที่ไมค์
  • เชื่อมต่อผ่านทางพอร์ต USB เป็นไมค์แบบติดขาตั้งมาให้ มีช่องหูฟัง 3.5 เป็นช่อง Monitor ที่ตัวไมค์มีลูกบิดปรับ Gain ติดมาให้
  • ราคา 6,590 บาท

แต่สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าไมโครโฟนของคอมพิวเตอร์จะมีราคาแพงแค่ไหนและมีสเปกที่ดีและน่าสนใจ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องจ่ายแพงเสมอไป เนื่องจากแต่ละคนใช้มันแตกต่างกัน สำหรับคนที่เน้นไลฟ์สด ไมโครโฟนแบบ cardioid อาจจะเพียงพอหากซื้อไมโครโฟนราคาหลายพันบาท อย่างไรก็ตาม บางคนที่ต้องการใช้บันทึกพอดแคสต์หรือเพลงคัฟเวอร์อาจต้องการลงทุนซื้อตัวเก็บประจุคุณภาพดีกว่า

สุดท้ายนี้ ให้ซื้อผลิตภัณฑ์ที่คุณจะใช้ ขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้งานและสิ่งที่คุณต้องการเป็นหลัก เมื่อคุณทราบความต้องการของคุณแล้ว ให้ตรวจสอบข้อมูลจำเพาะและคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยม โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าไมโครโฟนคอมพิวเตอร์นี้ตรงตามความต้องการของคุณก่อนที่จะซื้อ จึงไม่จำเป็นต้องเสียเวลาขายสินค้ามือสองและซื้อใหม่

บทความแนะนำ